เฟสบุ๊คมีการปรับอัลกอริทึมใหม่ปี 2020 วิธีที่ใช้ในการจัดอันดับการแสดงโพสต์ทั้งหมดบนหน้าฟีดข่าวเน้นไปที่ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในเชิงบวก เป้าหมายของอัลกอริทึมของ Facebook คือ“ แสดงเรื่องราวที่มีความสำคัญต่อผู้ใช้”
4 ปัจจัยในการจัดอันดับ และแสดงผลฟีดข่าวของเฟสบุ๊ค
- Inventory ของโพสต์ทั้งหมดที่มีอยู่ในการแสดง
- Signals ที่บอกเฟสบุ๊คว่าแต่ละโพสต์คืออะไร
- วิธีที่คุณจะโต้ตอบกับโพสต์แต่ละรายการ
- คะแนนสุดท้าย คือ Content เนื้อหาทั้งหมด
อัพเดทการจัดอันดับ Video Facebook
อีกหนึ่งอย่างของการปรับปรุงอัลกอริทึมใหม่ของ Facebook คือการจัดอันดับการแสดงผลของ Video ซึ่งมี 3 ข้อสำคัญที่จะทำให้ Video ของคุณได้รับคะแนนจาก เฟสบุ๊คดังนี้
- การรักษาผู้เข้าชมเก่าให้กลับมาชม Video ของคุณอีกครั้ง Video มีความปลอดภัย คุณจะเห็นการจัดอันดับ Video ของคุณเพิ่มขึ้น
- ระยเวลาในการเข้าชม Video ต้องมีความยาวอย่างน้อย 1 นาทีแม้ว่า Facebook แนะนำให้ใช้ Video ที่มีความยาวอย่างน้อย 3 นาที
- ความสดใหม่ของ Content เนื้อหาที่ถูกนำมาใช้ซ้ำหรือแชร์จะถูกลงโทษในขณะที่เนื้อหาดั้งเดิมจะได้รับการจัดอันดับ
การรับรู้สแปม
Algorithm ใหม่ของ Facebook ลดการกล่าวอ้างด้านสุขภาพที่ทำให้เข้าใจผิดรวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่โฆษณาอย่างไม่ถูกต้อง หน้าเว็บที่แบ่งปันเนื้อหาป้ายกำกับ Facebook clickbait จะพบว่าตัวเองถูกลงโทษภายในอัลกอริทึม ซึ่งส่งผลให้การกระจายลดลงภายในฟีดข่าว อย่างไรก็ตามเมื่อเนื้อหาที่ละเมิดหยุดการโพสต์เนื้อหาประเภทนี้ โพสต์ของพวกเขาจะไม่ถูกลงโทษอีกต่อไป
การคำนวณการแสดงผลหน้า Facebook
Facebook Update ช่วงเวลาเพื่อกรองการแสดงผลหน้าซ้ำ ๆ หากคุณสังเกตเห็นว่าสถิติการมองเห็นของคุณลดลงอย่าเพิ่งตกใจ ไม่ได้หมายความว่ากลยุทธ์ Facebook ทั้งหมดของคุณใช้งานไม่ได้
หมายความว่านักการตลาดควรมุ่งเน้นไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่า ตอนนี้พวกต้องมีเกณฑ์มาตรฐานที่แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณาและเตรียมที่จะเพิ่มการแสดงผลแบบธรรมชาติ
และความสำคัญสุดท้ายคือ ผู้โฆษณาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในกลยุทธ์ด้านเนื้อหาเพื่อเพิ่มจำนวน Traffic จำเป็นที่จะต้องซื้อโฆษณา Facebook Ads และทำเองแบบ organic เพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากความเข้าใจพื้นฐานของอัลกอริทึม Facebook ก็จะทำให้ Facebook เข้าใจถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเรามากยิ่งขึ้น ส่งผลให้อันดับของเราบนเฟสบุ๊คดีตามไปด้วย
4 แนวทางโปรโมทเฟสบุ๊ค ปี 2020
การยิงโฆษณาโปรโมทเฟสบุ๊ค มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่แนวทางไหนที่เรียกว่าเวิร์ค แนวทางไหนที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีคิดและการนำเสนอในปี 2020 นี้บ้าง ลองมาดู 4 แนวทางนี้กันเลย
-
Facebook Conversion
คือโฆษณาที่ยิงเพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าของเรา ซึ่งยิงได้แม่นและตรงประเด็นที่สุด แต่ก็เป็นโฆษณาที่ยิงยากสุดเช่นกัน คุณจึงต้องทำการเก็บ Interest, Custom Audience หรือโครงสร้างทั้งหมดให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นตัว Facebook Conversion จะใช้งานได้ไม่ดีพอ การโปรโมทเฟสบุ๊คแนวทางนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ทำธุรกิจมาระยะหนึ่งแล้ว หรือทำทุกอย่างในเพจดีแล้วจึงค่อยมาทำ Conversion บอกเลยว่าแนวทางนี้จะทำให้ยอดขายคุณดีขึ้นไปอีกในปี 2020 แน่นอน
-
Niche Retargeting + Lookalike
Niche คือการยิงโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจง
Retargeting คือการยิงโฆษณาซ้ำ เช่น การยิงโฆษณาหาผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์
Lookalike คือการโคลนนิ่งคนที่เหมือนกับคนที่เราเคยยิงโฆษณาใส่ ถือเป็นการยิงโฆษณาหาลูกค้าใหม่แบบแม่นยำด้วยการนำคนที่มีนิสัยเหมือนคนที่เคยเข้า Facebook ของเรา
ดังนั้น Niche Retargeting + Lookalike จึงเป็นการยิงแอดแบบเฉพาะเจาะจง โดยระบุไปเลยว่าต้องการยิงแอดไปหาคนที่กดปุ่มใด เช่น ยิงไปหาคนที่กดปุ่มติดต่อเราซ้ำ ยิงไปหาคนที่กดจอง หรือยิงไปหาคนที่กดปุ่มแจ้งชำระเงิน เป็นต้น เราจึงต้องรู้ก่อนว่าอยากให้คนกดปุ่มไหน แล้วทำการ Retargeting ไปหาคนที่กดปุ่มนี้ซ้ำ ตามด้วยการ lookalike เพื่อโคลนนิ่งคนที่กดปุ่มนี้เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าขึ้นมาอีก และจบด้วยการทำ Facebook Conversion เป็นต้น
-
Content Marketing
ในปี 2020 เราต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะผลิตคอนเทนต์ออกมาทุกครั้ง ด้วยการย้อนกลับไปดูที่ตัว Niche Retargeting ว่าเรามีความต้องการให้ลูกค้ากดปุ่มไหน แล้วจึงทำคอนเทนต์โปรโมทเฟสบุ๊ค เพื่อดึงดูดคนที่สนใจจริงๆ ให้มากดปุ่มนี้ เช่น เราต้องการให้ลูกค้ากดปุ่มแจ้งการชำระเงิน แปลว่าเราสนใจลูกค้ากลุ่มที่มีเงินพร้อม เราจึงต้องทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูดคนที่มีเงินให้มากดปุ่มนี้ แต่ถ้าต้องการให้ลูกค้ากดที่ปุ่มบทความ เราก็ต้องวางเรื่องยอดขายลง แล้วสร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านแทน เป็นต้น การวางแนวคิดให้เป็นขั้นตอนแบบนี้จะทำให้เรารู้แนวทางในการทำคอนเทนต์ และจะสามารถดึงดูดคนได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
-
Reprofile LTV + Lookalike Reprofile LTV
Reprofile LTV คือการเปลี่ยนฐานลูกค้าเก่าให้เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ ยกตัวอย่างเช่น คุณทำธุรกิจมาเป็นระยะเวลานาน จนมีฐานลูกค้าเก่าเยอะพอสมควรแล้ว แต่อยากเปลี่ยนเป็นลูกค้าทางออนไลน์ ก็ให้นำข้อมูลของลูกค้าเก่ามาใส่ในเฟสบุ๊ค จากนั้นเฟสบุ๊คก็จะทำการประมวลผลแล้วโคลนนิ่งกลุ่มลูกค้าที่คล้ายกันออกมา เป็นต้น ส่วน LTV หรือ Lifetime Value จะเป็นตัวที่สามารถระบุได้ว่าลูกค้าซื้อของไปในราคาเท่าไร เวลานำไป lookalike ก็จะพาไปหากลุ่มคนมีเงินเท่ากับฐานลูกค้าเก่าออกมาอีกชุดหนึ่ง ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเราในการขยายฐานลูกค้าสุดๆ
บอกเลยว่าการทำการตลาดในปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เข้มข้นขึ้นพอสมควร และแน่นอนว่าการโปรโมทเฟสบุ๊คก็อาจทำได้ยากขึ้นเช่นกัน เราจึงต้องทำความเข้าใจกับธุรกิจของตัวเองให้มากๆ และต้องวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดให้ดี คิดทุกอย่างให้เป็นขั้นเป็นตอนก่อนยิงโฆษณาทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น การหมั่นติดตามความเปลี่ยนแปลงของทุกๆ อย่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องรู้จักปรับตัวตามให้ทันเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดในปี 2020 นี้ด้วย