หัวใจสำคัญของการเขียนบทความให้ถูกใจ Google ก็คือการเขียนเนื้อหาที่โดนใจ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และควรมีภาพหรือวิดีโออธิบายประกอบในบทความนั้นๆ ด้วย เพราะ Google จะให้ความสำคัญกับบทความที่ให้คุณภาพจริงๆ แก่ผู้อ่าน มากกว่าการปั้นบทความที่มีแต่ Keywords ลองมาดูเทคนิคการเขียนบทความ SEO ให้มีประสิทธิภาพกันดีกว่าว่าจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
- ใส่ Keywords ลงไปในชื่อบทความ และต้องมีความยาวไม่เกิน 62 ตัวอักษร เพื่อให้บทความแสดงผลได้ดี และเพื่อให้ความยาวของตัวอักษรไม่ถูกตัดในหน้า SERPs ของ Google
- ใช้เทคนิคเว้นวรรคเพื่อเน้น Keywords จะสามารถส่งผลให้การอ่านของบอททำงานได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น
- ไม่ควรใส่ Keywords เกิน 1-2 คำในชื่อเรื่อง เพราะการใส่ Keywords ที่มากเกินไป อาจทำให้บทความที่เขียนถูกสแปม และไม่ติดอันดับ
- ควรแบ่งการเขียนบทความออกเป็น 3 ส่วน โดยแบ่งเป็นส่วนของการเกริ่นนำ 30% ส่วนของเนื้อเรื่อง 60% และส่วนของการสรุป 10% ซึ่งในทุกพารากราฟนั้นต้องมีการเว้นวรรค 1 บรรทัดเสมอ เพื่อให้ง่ายต่อการแยกประเด็นในการอ่าน
- เทคนิคในการเขียนบทความในส่วนของการเกริ่นนำ ให้เน้นไปที่การกล่าวถึงภาพรวมของเนื้อหา หรือเขียนให้กระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน ซึ่งหัวใจหลักในการเขียนเนื้อหาในส่วนเกริ่นนำ คือ การใส่ Keywords อย่างน้อย 2-3 คำ, การทำตัวหนาที่ Keywords ไม่เกิน 3 คำ, การกระจาย Keywords ให้สมดุล และไม่ต้องมีย่อหน้า
- เทคนิคการเขียนบทความในส่วนของเนื้อหา คือการเขียน Content โดยการแบ่งเนื้อหาออกเป็นรูปแบบหัวข้อย่อย, เว้นวรรคทุกบรรทัดของหัวข้อย่อย, อย่าใส่เลขหน้าในหัวข้อย่อย, ใส่ตัวหนาได้ไม่เกิน 1 ที่สำหรับ Keywords , อย่ากระจาย Keywords ให้เยอะจนเกินไป และควรทำตัวหนาให้กับทุกหัวข้อย่อยเสมอ
- เทคนิคการเขียนบทความในส่วนของการสรุป เป็นการอธิบายเพื่อสรุปถึงจุดสุดท้ายของการอ่าน มีจุดประสงค์ให้ผู้อ่านได้ทบทวนถึงความสำคัญของเนื้อหาทั้งหมดที่กล่าวมา
- อย่าลืมแทรกรูปภาพเข้าไปในบทความด้วยเสมอ และควรตั้งไฟล์ภาพเป็นชื่อ Keyword นั้นๆ ด้วย ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้บทความติดหน้าแรกได้ด้วยเวลาไม่นาน
หากทำตามเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าจะช่วยให้คุณออกแบบการเขียนบทความออกมาได้โดนใจ และตรงกับความต้องการของ Google จนติดอันดับได้อย่างแน่นอน
วิดีโอ content กับเทรนด์ผู้บริโภคในยุค 2020