Facebook ได้ออกเครื่องมือทดสอบการตลาดแบบใหม่อย่าง Create Post Tests หรือปุ่มสร้างการทดสอบโพสต์ ที่จะเปิดให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถทดสอบประสิทธิภาพโพสต์แบบ A/B Testing เพื่อเปรียบเทียบการทำงานระหว่างโพสต์ทั้ง 2 แบบได้โดยไม่ต้องเสียเงินยิง Ad โฆษณาแล้ว
ซึ่งการทำ A/B Testing ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่แบรนด์ต่างๆ และนักการตลาดทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะเป็นฟังก์ชันที่สามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำ เพียงแต่ต้องเสียเงินยิง Ad โฆษณาเพื่อทำการทดสอบเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน Facebook ได้ทำการปล่อยฟีเจอร์ Create Post Tests ที่ทำงานเหมือนกับ A/B Testing ออกมาให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ทดลองใช้กันแล้ว ซึ่งก็ช่วยให้เราสามารถทดสอบโพสต์กับผู้ติดตามเพจของเราได้ ทำให้เราเห็นว่าโพสต์ตัวไหนจะสามารถแสดงผลได้ดีกว่ากัน และยังได้เห็นความแตกต่างของโพสต์แต่ละตัวในแบบที่ไม่ต้องเสียเงินยิง Ad โฆษณาอีกด้วย
เครื่องมือดังกล่าวจะอยู่ใน Creator Studio และจะปรากฎให้เห็นตอนครีเอทโพสต์แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังเปิดให้ทดสอบแค่โพสต์ประเภทวิดีโอในแบบต่างๆ เท่านั้น โดยเปรียบเทียบกันที่เนื้อหาภายในคลิป ระยะเวลาของคลิป แคปชั่น หรือรายละเอียดอื่นๆ ได้สูงสุด 4 แบบ พร้อมทั้งตั้งตัวชี้วัดเป้าหมายของโพสต์นั้นๆ ด้วย เช่น การรับชมวิดีโอ ยอดการแชร์ ยอดการเข้าถึง หรือยอดการคลิกลิงก์ เป็นต้น
การทดสอบโพสต์จะจบลงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง (สามารถตั้งเวลาทดสอบเพื่อตัดสินโพสต์ที่ชนะได้ด้วย) หรือเมื่อประสิทธิภาพของโพสต์ที่ทำการทดสอบทั้งหมดรวมกันไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว แต่ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าในปัจจุบัน Facebook ยังปล่อยเครื่องมือนี้ออกมาให้ทดลองใช้งานได้แค่สำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น และตัวชี้วัดเป้าหมายก็ยังไม่แม่นยำมากนักเมื่อเทียบกับ A/B Testing
และเมื่อการทดสอบจบลง Facebook ก็จะทำการเลือกโพสต์ที่ชนะ หรือมีประสิทธิภาพสูงสุดมาแสดงผลให้คนทั่วไปได้เห็นแบบถาวรบนเพจเหมือนกับโพสต์อื่นๆ ต่อไป ถือเป็นฟีเจอร์ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้งานด้วยฟังก์ชันในแบบ A/B Testing ที่ไม่จำเป็นต้องยิง Ad โฆษณาให้เสียค่าใช้จ่าย ก็สามารถรู้ได้ว่าโพสต์ไหนจะให้ประสิทธิภาพได้สูงสุด
ยังไงก็ลองเช็ก Creator Studio ของตัวเองกันดูนะคะว่ามีฟีเจอร์นี้ปรากฎขึ้นมาให้เราได้ทดลองเล่นกันแล้วหรือยัง เพราะถึงแม้ว่าตัวฟีเจอรร์จะยังไม่สมบูรณ์และมียังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่เราก็ยังได้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ไม่มากก็น้อยแน่ๆ ซึ่งถ้าหากใครมีเครื่องมือนี้อยู่ในมือก็อย่าลืมหาเวลาไปลองทดลองใช้กับโพสต์ในเพจของตัวเองกันดูนะคะ