นอกจากโควิด-19 ที่เราทุกคนยังต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว การเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยหลายๆ สิ่งอย่างพฤติกรรมของผู้บริโภค เทรนด์การทำโฆษณา หรือเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนแบบรวดเร็วและก้าวกระโดด ก็ถือเป็นความท้าทายที่นักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ทุกคนควรรู้และปรับตัวให้ทัน ดังนั้น เราลองมาดูกันว่าช่องทางโฆษณาออนไลน์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเอาท์และอินในปี 2021 จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

1.สิ่งที่เป็น Physical อย่าง Physical Store กำลังจะเอาท์ เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ห้างร้านต้องถูกปิด ทำให้หลายๆ แบรนด์ต้องสร้างเว็บไซต์ที่สามารถปิดยอดขายได้ขึ้นมาแทน และ Virtual ต่างๆ อย่าง Influencer Virtual หรือศิลปินที่เป็น Vitual จะยังคงอินอยู่ ซึ่งจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณและความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

2.การทำโฆษณาแบบ Awareness ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายใหญ่ๆ อย่างเช่นการแบ่งเป็นกลุ่ม A B C หรือการแบ่งเป็นกลุ่มช่วงอายุเป็นก้อนๆ ฯลฯ จะเริ่มลดความนิยมและเอาท์ไป เพราะในอนาคตความ Personalization อย่างการเน้นระบุไปที่พฤติกรรมเฉพาะบุคคลจะมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า กลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุเดียวกันก็อาจไม่ได้มีพฤติกรรมความต้องการหรือความสนใจที่เหมือนกันไปทั้งหมด Big Data จึงมีความจำเป็นสูงมาก เพราะต้องนำมาวิเคราะห์ความต่างของแต่ละบุคคล

3.พวกคอนเทนต์ฟรีต่างๆ ที่เคยดูหรืออ่านฟรีจะค่อยๆ ลดขนาดลงเรื่อยๆ เพราะโลกของการจ่ายเงินเพื่อดูคอนเทนต์จะเข้ามาแทนที่ และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น การยอมจ่ายค่า Netflix หรือ Youtube Premium เพื่อที่จะได้รับชมวิดีโอที่มีคุณภาพมากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถเลี่ยงชมโฆษณา และมีสิทธิพิเศษต่างๆ ที่เหนือกว่าการดูฟรี เป็นต้น

4.Social Campaign ที่ใช้ในการโฆษณา เช่น งานรับดูแล Facebook ให้แบรนด์จะค่อยๆ เอาท์ และถูกแทนที่ด้วย Full Campaign เพราะในอนาคตทั้ง Facebook และโซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็จะถูกลดโอกาสในการมองเห็นลง ดังนั้นการสร้างแคมเปญโดยใช้ Data Management Platform หรือการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคจากพฤติกรรมการใช้แพลตฟอร์ม เพื่อวิเคราะห์ความสนใจของคนๆ นั้น แล้วยิงโฆษณาที่ผู้บริโภคคนนั้นให้ความสนใจเข้าไปจึงเป็นทางรอดที่ควรทำ นอกจากนี้ยังสามารถกระจายคอนเทนต์หรือโฆษณาไปยังผู้บริโภคในช่องทางอื่นๆ ได้อีกด้วย ทำให้แบรนด์ประหยัดเงินขึ้นและไม่ต้องยิงโฆษณาที่กว้างเกินไป เพราะสามารถโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายโดยตรงได้เลย

5.โซเชียลมีเดียจะเริ่มเอาท์ เพราะคอนเทนต์หรือโฆษณาที่เผยแพร่ออกไปจะถูกปรับลดการมองเห็นลง อีกทั้งทางแบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มหันมาสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นของตัวเองกันมากขึ้น เช่นการสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั่นเอง

6.Blind Ad หรือการส่งโฆษณาไปยังเว็บไซต์ที่กลุ่มผู้สนใจสินค้าหรือบริการนั้นๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ากลุ่มเป้าหมายจะเห็นหรือไม่ อีกทั้งยังมีโอกาสยิงโฆษณาไปสู่คนที่ไม่สนใจและกินเงินเอามากๆ ซึ่งจะถูกการทำโฆษณาแบบ DMP Ad หรือการทำโฆษณาแบบเรียลไทม์เข้ามาแทนที่ เพราะ DMP Ad ต้องสร้างเงื่อนไขเองว่าคนไหนควรจะได้เห็นโฆษณาของเรา และคัดคนที่จะไม่เห็นโฆษณาของเราออกได้ ทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า สูงกว่า และคุ้มค่ากับงบที่ลงทุนไปได้มากกว่าด้วย

และทั้งหมดนี้ก็คือช่องทางโฆษณาออนไลน์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเอาท์และอินในอนาคต หรือจะเรียกว่าเป็นเทรนด์โฆษณาแบบเก่าไปใหม่มาที่นักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ควรติดตาม และปรับตัวให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะได้นำไปสู้กับคู่แข่งบนโลกโฆษณาได้นั่นเอง

 

ธุรกิจประเภทใดนิยมโปรโมทผ่านทาง TikTok