ทุกคนคงทราบกันดีว่าสังคมใน Twitter นั้นค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างจากสังคมบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook หรือ Instagram จึงไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่เลือกทำการตลาดยิง ads โฆษณาผ่านช่องทางนี้แล้วจะปัง เพราะลักษณะของผู้ใช้งานใน Twitter ส่วนใหญ่มักจะไม่ระบุข้อมูลส่วนตัว หรือเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ดังนั้นการโพสต์รีวิวแบรนด์ต่างๆ ที่มาจากผู้ใช้งานจริงจึงมีสิทธิ์ปังสุดๆ มากกว่าการทำ ads โฆษณาใน Twitter เสียอีก

นอกจากนี้ก็ยังมีข้อจำกัดของจำนวนตัวอักษรบน Twitter ด้วย ถ้าแบรนด์ไม่สามารถทำรูปภาพหรือประโยคในบรรทัดแรกๆ ให้ออกมาสะดุตาสะดุดใจได้แล้ว ก็มีสิทธิ์ที่ผู้ใช้งานจะเลื่อนผ่าน ads โฆษณาไปได้ง่ายๆ เลยทีเดียว แล้วทีนี้จะทำอย่างไรให้สามารถดึงดูผู้ใช้งานจนเพิ่มโอกาสในการรับรู้และ Retweet ได้ ลองมาดูเทคนิค 3Rs กันค่ะ

Relevance

เป็นการดูว่าโพสต์หรือ ads โฆษณาของเราตรงกับความสนใจของผู้ใช้งานหรือเปล่า โดยการทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเราบน Twitter มีความสนใจอย่างไรบ้างในเชิง Interest เช่น ศิลปินเกาหลี, คาเฟ่, การเมืองไทย, สิ่งแวดล้อม, การรณรงค์หรือการขับเคลื่อนสังคม เป็นต้น หลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้แล้วจึงค่อยนำไปเรียบเรียงหรือครีเอทงานออกมาว่าจะให้เป็นไปในรูปแบบไหน ใช้ดาราศิลปินแบบใด ไปจนถึงคำพูดหรือประโยคในแฮชแท็กที่จะทำให้ผู้ใช้งานใน Twitter เกิดความสนใจจนกลายมาเป็นเรื่องที่มีแต่คนพูดถึงได้นั่นเอง

Resonance

เป็นการดูว่าผู้ใช้งาน Engage กับ ads โฆษณาของเราแค่ไหน ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญของการทำการตลาดบน Twitter จะไม่ได้มีแค่ยอด Reach แต่ต้องมีการกด Retweet หรือ Favourite เอาไว้ด้วย เพราะเมื่อยอด Tweet มากขึ้น ยอด Reach และ Impressions ก็จะตามมาเอง การใส่ใจกับการทำ ads โฆษณาจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นภาพที่สามารถดึงดูดสายตา, วิดีโอที่น่าติดตาม, ข้อความ, ดีไซน์ต่างๆ หรือหัวข้อโพล เป็นต้น

Recency

คือความสดใหม่ของ Tweet ที่ใช้ การเปลี่ยนผลงานหรือรูปแบบครีเอทีฟใหม่ๆ จะทำให้การรับรู้ในสิ่งที่ต้องการสื่อสารนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสนใจและอยากติดตามผลงานของแบรนด์ไปตลอดได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความถี่ในการโพสต์ด้วย เพราะการโพสต์ ads โฆษณาแบบถี่ๆ ซ้ำๆ จนดูน่ารำคาญก็อาจทำให้ผู้ใช้งานกดปุ่มไม่อยากเห็นโฆษณานี้อีกต่อไปได้ด้วยเช่นกัน

และทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิค 3Rs ในการทำ ads โฆษณาบน Twitter ให้ปังที่เราอยากนำมาบอกต่อกันค่ะ สำหรับแบรนด์ไหนที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่บน Twitter ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับชิ้นงานให้มากๆ เพราะการจะสร้าง Awareness ผ่านแพลตฟอร์มนี้ คงพึ่งการปั้นแฮชแท็กให้ติดอันดับเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องควบคู่ไปกับการสร้างชิ้นงานและการใส่ไอเดียครีเอทีฟลงไปด้วย การทำการตลาดผ่านช่องทางนี้ถึงจะดีขึ้นได้

สร้างการจดจำให้ ad โฆษณา ด้วยฟีเจอร์ใหม่จากทวิตเตอร์ 0

 

สร้างการจดจำให้ ad โฆษณา ด้วยฟีเจอร์ใหม่จากทวิตเตอร์

ด้วยทิศทางของสื่อดิจิตอลที่พัฒนาขึ้นทุกวัน บวกกับ Content ที่มีอยู่มากมายในทุกพื้นที่สื่อ บรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ จึงต้องไม่หยุดนิ่ง และเร่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันเพื่อดึงพื้นที่ ad โฆษณาให้แก่ตัวเอง และเพื่อเป็นเครื่องมือใหม่ๆ ให้นักการตลาดสร้างสรรค์ ad โฆษณาให้เข้าไปอยู่ในความทรงจำของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทวิตเตอร์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ จากลักษณะของสื่อที่เน้นความรวดเร็ว มีการอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ กันแบบนาทีต่อนาที จึงทำให้คนที่ชอบอัปเดตข่าวสาร ไม่อยากตกเทรนด์ต้องมีแอปพลิเคชันนี้อยู่ในโทรศัพท์กันแน่นอน

ล่าสุดทวิตเตอร์ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Promoted Trend Spotlight ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยสร้างการจดจำให้กับตัว

ad โฆษณาได้มากขึ้น เพราะตัว ad โฆษณา จะถูกแสดงอยู่บนแถบค้นหาที่เป็นทั้งจุดรวบรวมเทรนด์และแฮชแท็กยอดนิยม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ทุกคนต้องเข้าไปสำรวจอยู่เป็นประจำ ถือเป็นกลยุทธ์การวาง ad โฆษณาแบบวิดีโอในตำแหน่งที่เด่นและทรงพลังที่สุด สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มการมองเห็นได้เป็นอย่างดี

ซึ่งฟีเจอร์ Promoted Trend Spotlight นี้ก็จะเข้ามาเสริม ad โฆษณาของฟีเจอร์เก่าอย่าง Promoted Trend ด้วยการเพิ่มลูกเล่นในการใช้วิดีโอความยาว 6 นาที, ภาพ GIFs หรือภาพนิ่งบทแถบค้นหาของทวิตเตอร์ สามารถมองเห็น ad โฆษณาของแบรนด์ได้ถึง 2 ครั้งต่อวัน และยังสามารถเปลี่ยนอาร์ตเวิร์คได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย และเมื่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์คลิกเข้ามาชม ad โฆษณานี้ครบทั้ง 2 ครั้งภายในวันนั้น ad โฆษณาตัวนั้นก็จะถูกย้ายไปเป็น ad โฆษณาแบบ Promoted Trend และขึ้นเป็นแบบออร์แกนิกแทน ซึ่งจุดแข็งของตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้ฟีเจอร์ Promoted Trend Spotlight นี้จะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้ และตัว ad โฆษณาก็ยังถูกกระจายสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมในวงกว้างอีกด้วย

เมื่อมีการวาง ad โฆษณาในรูปแบบใหม่ๆ แล้ว การสร้างคอนเทนต์ให้กลายเป็นที่พูดถึงบนทวิตเตอร์ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์มักพูดถึงก็จะเป็นการติดตามข่าวสาร, เทรนด์ใหม่ๆ, สิ่งที่กำลังเป็นกระแส, โปรโมชั่น, สินค้า, บริการ หรือแอปพลิเคชันใหม่ๆ เป็นต้น และการสร้าง Brand Awareness บนทวิตเตอร์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยเทคนิคเหล่านี้

– เขียน Copywriting ให้กระชับ สั้น และตรงจุด

– ใส่ Call to action ให้ชัดเจนทั้งใน Copywriting และ Media

– อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของ Media ที่จะทำการเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือสกุลไฟล์

– ใช้แฮชแท็กให้เป็นประโยชน์ เช่น ชื่อแบรนด์, ชื่อแคมเปญ หรือสโลแกน เป็นต้น

การทำ ad โฆษณาผ่านทวิตเตอร์ ถือเป็นช่องทางที่สามารถสร้าง Brand Awareness ให้กับแบรนด์ของคุณได้ดีไม่แพ้แพลตฟอร์มอื่นๆ เลย แต่ก่อนที่จะเลือกใช้เครื่องมืออะไรในการทำการตลาด เราเองก็ควรศึกษา หรือทดลองใช้งานแต่ละช่องทาง เพื่อซึมซัมและเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละช่องทางด้วย และถึงแม้จะมีแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมามากมายสักแค่ไหน สิ่งสำคัญของการทำ ad โฆษณาทุกตัวคือการตั้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าแบรนด์ต้องการที่จะสื่อสารอะไรกับลูกค้า แล้วจึงนำมาวิเคราะห์เพื่อเลือกใช้แพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของเราให้มากที่สุดอีกทีต่างหาก