Personalized Marketing หรือการตลาดแบบเฉพาะบุคคล เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดหรือการทำโฆษณา ออนไลน์ในรูปแบบที่ผู้ประกอบการสามารถจดจำความชอบแบบเฉพาะของผู้บริโภคแต่ละคน หรือพฤติกรรมการซื้อสินค้าต่างๆ ได้ โดยการใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจนถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ เพื่อให้แบรนด์สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคได้แบบคนรู้ใจ

นอกจากนี้ยังสามารถนำผลการวิเคราะห์ของ Data มาพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ และนำเสนอคอนเทนต์หรือโฆษณา ออนไลน์ให้ออกมาตรงใจผู้บริโภคได้มากที่สุดอีกด้วย ซึ่งเป้าหมายของการทำการตลาดรูปแบบนี้นั้นเป็นไปเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์แบบเรียลไทม์ สามารถตอบสนองได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อเพิ่มยอดขาย ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความพิเศษ เกิดเป็นความประทับใจ จนนำไปสู่การซื้อซ้ำๆ ในครั้งต่อไปได้แบบระยะยาวนั่นเอง

ซึ่งการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing หรือการตลาดแบบเฉพาะบุคคล ก็ต้องพึ่งเครื่องมือหรือโปรแกรมเพื่อเป็นตัวช่วยในการวัดผลการทำการตลาดให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และสามารถวิเคราะห์หาพฤติกรรม หรือลักษณะเฉพาะบุคคลของผู้บริโภคได้ เราจึงนำเครื่องมือที่จะช่วยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผลมาแนะนำกันค่ะ

  • Analytics Platform: เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น ผู้บริโภคเข้าหน้าเว็บไหนบ่อย กำลังมองหาสินค้า หรือค้นหาคีย์เวิร์ดประเภทไหน ไปจนถึงช่วงเวลาที่ใช้บริการ จากนั้นระบบก็จะทำการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ตัวตนของผู้บริโภคแบบเฉพาะตัวบุคคล
  • Data Management Platform: เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถจัดหาข้อมูลต่างๆ ด้วยการจัดเรียงและส่งข้อมูลไปยังนักการตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดเรียงข้อมูลอย่างอายุ รายได้ ที่อยู่ หรือพฤติกรรมการซื้อ ใช้สำหรับหากลุ่มเป้าหมายในการทำแคมเปญโฆษณา ออนไลน์ต่างๆ ในอนาคต
  • Customer Relationship Management Software (CRM): เป็นระบบที่จะจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในด้านต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์หาช่องทางในการบริหารความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อเปลี่ยนจากลูกค้าธรรมดาให้กลายมาเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งระบบจะทำการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลแบบย้อนหลังทางโทรศัพท์ Call Center, การพูดคุยผ่านอีเมล หรือการแชทผ่านเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการหาความต้องการของผู้บริโภค
  • Post-Click Landing Page Platform: เน้นวิเคราะห์หากลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสกลายมาเป็นลูกค้าหรือเปลี่ยนลูกค้าธรรมดาให้เกิดการซื้อซ้ำ เป็นการกระตุ้นการขายบางอย่างเพื่อให้เกิดการ Call to Action เช่น การสมัครสมาชิกหรือการดาวน์โหลด เป็นต้น
  • Email Marketing Platform: เป็นช่องทางที่จะสร้างโอกาสสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะมองข้ามไม่ได้ เพราะเราสามารถอีเมลหาลูกค้าด้วยการเอ่ยชื่อจริง, การส่งอีเมลอวยพรวันเกิด หรือการส่งอีเมลเพื่อแจ้งสิทธิพิเศษต่างๆ เป็นต้น
  • Tag Management Platform: เป็นการติดแท็กหรือฝังโค้ดไว้ในเว็บไซต์เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้นักการตลาดรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือค่าสถิติต่างๆ จากหน้าเว็บไซต์ และ Landing Page ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำโฆษณา ออนไลน์แบบ Remarketing มาก เพราะจะช่วยหากลุ่มเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจง และส่งแคมเปญโฆษณา ออนไลน์ได้อย่างตอบโจทย์มากขึ้น
  • Demand-Side Platform: เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อโฆษณา ใช้ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่สามารถมองเห็นแคมเปญโฆษณา ออนไลน์ ทั้งแบบแบนเนอร์และวิดีโอ ซึ่งนักการตลาดจะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการโฆษณา ออนไลน์ทีละตัว เพราะโปรแกรมจะเชื่อมต่อเว็บไซต์เครือข่ายต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้การจัดการโฆษณา ออนไลน์สามารถทำได้ใน Interface เดียว

 เห็นได้ว่ากลยุทธ์ Personalized Marketing จะเน้นการใช้เทคโนโลยีในการเก็บ Data เพื่อเข้าหาผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ ทำให้แผนการตลาดและโฆษณาออนไลน์มีความก้าวหน้า สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้มากกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้พร้อมกันทีละหลายๆ คนอีกด้วย ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยินดีให้ข้อมูลส่วนตัวแก่แบรนด์หากจะได้รับผลประโยชน์หรือการบริการที่พิเศษขึ้นกว่าเดิม

 

Digital Marketing กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด