เมื่อค่าโฆษณา facebook แพงขึ้น แต่ยอดขายกลับไม่เพิ่มตามค่าโฆษณาที่ลงไป ควรแก้อย่างไรดี? ผู้ประกอบการหลายๆ ท่านคงประสบปัญหาเรื่องค่าโฆษณาเฟสบุ๊คสูงขึ้นแต่ยอดขายกลับเท่าเดิมหรือน้อยลง คงจะตั้งคำถามในใจกันว่าสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีแก้ไขและจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างไร

สาเหตุ ที่ค่าโฆษณา facebook เพิ่มขึ้น

ในแต่ละปีเป็นผลมากจากการที่มีผู้ใช้งานมากขึ้น ทำให้การแข่งขันสูงตาม ผลที่ตามมาคือ ราคาค่าโฆษณาจึงพุ่งสูงขึ้นตามแนวโน้มของผู้ประกอบการบน facebook นั่นเอง แต่ก็ยังมีแนวการแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีลดค่าโฆษณา facebook มาให้แล้ว ดังนี้

ทำโฆษณาที่มี Engagement สูง

Engagement คือ ตัวเลขที่แสดงสถิติคนดูโฆษณา อย่างยอดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ ซึ่งถ้าเรามียอดเหล่านี้เยอะ โฆษณาของเราก็จะสามารถเข้าถึงคนได้เยอะมากขึ้นด้วย

หากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าของเรา

การเลือกกลุ่มเป้าหมายไม่ถูกกลุ่ม ทำให้คนที่เห็นโฆษณาไม่เกิดความสนใจจนนำไปสู่การติดต่อซื้อขายได้ ซึ่งก็แปลว่า ค่าโฆษณา faceook ของเราก็จะแพงด้วย

การวิเคราะห์ และการเก็บข้อมูลจากกลุ่มคนที่มีแนวโน้มว่าจะสนใจในสินค้าของเรา เพื่อทำการทดลองยิงแอดโฆษณาในราคาที่ถูกที่สุด ต่อวันต่อแต่ละกลุ่มเป้าหมายหลายๆ กลุ่ม เพื่อดูผลตอบรับแล้วค่อยๆ เก็บข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายไหนที่ตอบสนองกับโฆษณาของเราได้ดีที่สุด

ทำ Lookalike

การทำ Lookalike คือการใช้ระบบภายในของ facebook เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกับกลุ่มลูกค้าของเรา ซึ่งมีแนวโน้มในการซื้อสินค้ามากกว่ากลุ่มเป้าหมายทั่วไป

แต่สำหรับคนที่พึ่งเริ่มทำโฆษณาใหม่ๆ บอกเลยว่าคุณจำเป็นที่จะต้องหา Lookalike จากช่องทางภายนอก เช่น ข้อมูลลูกค้าเก่า ซึ่งสร้างจากเบอร์โทรศัพท์และอีเมล ในจำนวน 200-500 คนขึ้นไป จึงจะสร้าง Lookalike ที่สามารถให้ผลดีได้

แต่สำหรับคนที่ผ่านการทำโฆษณาจนมีข้อมูลลูกค้าเยอะอยู่แล้ว Lookalike จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ช่วยหาลูกค้าใหม่ให้คุณได้ดีกว่าการเลือกกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ facebook นำเสนอให้ เช่น ข้อมูลลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของคุณ, คนที่กดไลก์เพจคุณ, คนที่เคยดูโฆษณาคุณจนจบ หรือแม้แต่คนที่เคยคลิกโฆษณา และทักคุณมานั่นเอง

ปรับธุรกิจให้ไม่ยึดติดกับ facebook

ค่าโฆษณา facebook นับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ การปรับเปลี่ยนช่องทางโฆษณา โดยไม่พึ่ง facebook มากจนเกินไป ก็เป็นส่วนช่วยในการเซฟค่าใช้จ่ายได้ เช่น การเก็บข้อมูลลูกค้าผ่าน line เบอร์โทร หรืออีเมลของลูกค้า ก็สามารถนำมาใช้ทำการตลาดเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Remarketing หรือการย้ายฐานลูกค้าไปสู่ช่องทางอื่นๆ ที่มีค่าโฆษณาที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็ปไซต์ของตัวเอง หรือช่องทางอื่นๆ อย่างยูทูปและกูเกิ้ล เป็นต้น

facebook เป็นเพียงเครื่องมือและเทคนิคเบื้องต้นในการค้นหาลูกค้าเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณต้องการใช้ facebook เป็นช่องทางหลักในการขายของและทำโฆษณา คุณก็ต้องคอยติดตาม และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมไปถึงค่าโฆษณา facebook ด้วย การหาวิธีหรือช่องทางสำรองตามที่กล่าวไปข้างต้น จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่เราไม่อยากให้คุณมองข้าม

 

คำต้องห้ามที่คนทำโฆษณาเฟสบุ๊คควรรู้ ฝ่าฝืนมีสิทธิ์โดนปิดเพจ